[email protected]
← ย้อนกลับ ถูกไล่ออก... ได้รับ "ค่าชดเชย" แล้ว... แปลว่าจบกันแค่นี้จริงหรือ? 🧐

อัปเดตเมื่อ: 18/09/2025

ถูกไล่ออก... ได้รับ "ค่าชดเชย" แล้ว... แปลว่าจบกันแค่นี้จริงหรือ? 🧐

ถูกไล่ออก... ได้รับ "ค่าชดเชย" แล้ว... แปลว่าจบกันแค่นี้จริงหรือ? 🧐

 

ถูกเลิกจ้าง vs. เลิกจ้างไม่เป็นธรรม สองคำที่ต่างกันฟ้ากับเหว HR และลูกจ้างต้องรู้

 

มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่เข้าใจว่า เมื่อถูกเลิกจ้างและได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายแล้ว เรื่องทุกอย่างจะถือเป็นอันสิ้นสุด แต่ในความเป็นจริง การเลิกจ้างนั้นอาจเข้าข่าย ไม่เป็นธรรม ก็ได้ ซึ่งอาจทำให้ลูกจ้างมีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมได้อีก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการเลิกจ้างของเราเป็นธรรมหรือไม่? มาไขข้อข้องใจนี้กันครับ

 

การเลิกจ้าง กับ การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม คืออะไร? ก่อนอื่นเราต้องแยก 2 คำนี้ออกจากกันให้ชัดเจนก่อน

 

การเลิกจ้าง คือ การกระทำที่ทำให้นายจ้างกับลูกจ้างสิ้นสุดสัญญาจ้างกัน ซึ่งกฎหมายมองไว้ 2 กรณีหลัก ๆ คือ

 

1) นายจ้างไม่ให้เราทำงานต่อและไม่จ่ายค่าจ้างให้ หรือ

 

2) เราทำงานต่อไม่ได้เพราะบริษัทไปต่อไม่ไหวจริงๆ เช่น ปิดกิจการ ซึ่งเมื่อเกิด การเลิกจ้าง ขึ้น นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่าย ค่าชดเชย ตามกฎหมาย

 

การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ไม่ใช่เรื่องของกระบวนการ แต่เป็นเรื่องของ เหตุผล ในการเลิกจ้างครับ กฎหมายไม่ได้เขียนนิยามไว้ชัดเจน แต่แนวคำพิพากษาศาลฎีกาได้วางหลักไว้ว่า คือ การที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้าง โดยไม่มีสาเหตุ หรือ มีสาเหตุแต่ยังไม่สมควรหรือร้ายแรงพอที่จะต้องถึงขั้นไล่ออก เช่น กลั่นแกล้งเพราะไม่ชอบหน้า, ทำผิดเล็กน้อยครั้งแรก, หรืออ้างว่าขาดทุนทั้งที่จริงบริษัทยังมีกำไร

 

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

       * การเลิกจ้าง ถูกนิยามไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานฯ พ.ศ. 2541 มาตรา 118 วรรคสอง ซึ่งเป็นที่มาของสิทธิในการรับค่าชดเชย

 

       ** การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 49 ที่ให้อำนาจศาลแรงงานพิจารณากำหนดค่าเสียหายให้ลูกจ้างได้ หากเห็นว่าการเลิกจ้างนั้นไม่เป็นธรรม

 

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ การเลิกจ้าง คือ การกระทำ ส่วน การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม คือ เหตุผลเบื้องหลังการกระทำ ครับ นายจ้างอาจทำตามขั้นตอนการเลิกจ้างทุกอย่าง จ่ายค่าชดเชยครบถ้วน แต่ถ้า เหตุผล ที่ใช้ไล่เราออกมันไม่สมเหตุสมผล ศาลก็มองว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบได้

 

ประเด็นที่เจอบ่อยคือ การเลิกจ้างโดยอ้าง "หนังสือเตือน" ซึ่งนายจ้างมักใช้เป็นเหตุผลว่าลูกจ้างทำผิดซ้ำคำเตือน แต่หนังสือเตือนนั้นจะชอบด้วยกฎหมายและใช้อ้างเพื่อเลิกจ้างได้ ต้องครบ 5 องค์ประกอบนี้เท่านั้นครับ

 

       1.ลูกจ้างทำผิดจริง แต่ต้องเป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรง

 

       2. เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร เตือนด้วยวาจาใช้ไม่ได้

 

       3. หนังสือออกโดยผู้มีอำนาจ เช่น หัวหน้างาน หรือฝ่ายบุคคล

 

       4. เนื้อหาในหนังสือต้องระบุความผิดชัดเจน ว่าทำผิดเรื่องอะไร วันไหน และสั่งห้ามไม่ให้ทำอีก

 

       5.ต้องมีหลักฐานว่าลูกจ้างได้รับทราบคำเตือนแล้ว

 

หากหนังสือเตือนขาดข้อใดข้อหนึ่งไป แล้วนายจ้างนำมาใช้อ้างเพื่อเลิกจ้างเรา อาจถือว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมได้

 

มีคดีตัวอย่างที่น่าสนใจ (คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ ๑๑๕/๒๕๖๒) นายจ้างเลิกจ้างและทำเอกสารให้ลูกจ้างเซ็น โดยมีข้อความว่า "ลูกจ้างจะไม่ติดใจเรียกร้องใดๆ อีก" แต่ลูกจ้างไม่ยอมเซ็นในช่องนั้น ไปเซ็นชื่อแค่ด้านล่างสุดของกระดาษเพื่อแสดงว่า "รับทราบคำสั่ง" เท่านั้น

 

ศาลตัดสินว่า การกระทำของลูกจ้างแสดงให้เห็นชัดเจนว่า "ไม่ได้ยินยอม" ที่จะสละสิทธิ์เรียกร้อง เอกสารนั้นจึงไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ ลูกจ้างยังมีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้ นี่เป็นตัวอย่างที่ดีว่า การเซ็นเอกสารโดยไม่อ่านให้ดี อาจทำให้เราเสียสิทธิ์ได้ครับ

 

สรุปข้อผิดพลาดและแนวทางแก้ไข

 

สำหรับลูกจ้าง

       1. อย่ารีบเซ็น เมื่อได้รับเอกสารเลิกจ้าง ควรอ่านให้ละเอียดทุกตัวอักษร หากไม่แน่ใจ อย่าเซ็นในช่องที่เขียนว่า "ยินยอม" หรือ "ไม่ติดใจเรียกร้อง" ให้เขียนกำกับว่า "รับทราบเท่านั้น" แล้วลงชื่อ

       2. ค่าชดเชย ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แม้ได้รับค่าชดเชยครบ ก็ไม่ได้หมายความว่าการเลิกจ้างนั้นจะ เป็นธรรม เสมอไป หากรู้สึกว่าเหตุผลไม่สมควร ลูกจ้างอาจมีสิทธิ์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการไม่เป็นธรรมได้

 

สำหรับนายจ้าง/HR

       1. ก่อนเลิกจ้าง ต้องมั่นใจว่ามีสาเหตุที่สมควรและมีหลักฐานชัดเจน การจ่ายค่าชดเชย ไม่ได้ช่วยให้พ้นจากคดีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม

       2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า หนังสือเตือนที่ออกไปนั้นครบองค์ประกอบ 5 ข้อตามคำแนะนำ มิฉะนั้นจะกลายเป็นระเบิดเวลา ที่ย้อนกลับมาทำร้ายองค์กรได้

 

พอเห็นภาพความแตกต่างหรือยังครับ ตราบใดที่คุณยังคือมนุษย์เงินเดือนก็หนีไม่พ้น 2 คำนี้ ศึกษาไว้ก่อนย่อมได้เปรียบ หากวันใดเกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว ตอนนั้นคุณจะรับมือกับสถานการณ์นั้นได้  

 

 

#กฎหมายแรงงาน #สิทธิลูกจ้าง #เลิกจ้าง #ค่าชดเชย #มนุษย์เงินเดือน #HRต้องรู้ #เลิกจ้างไม่เป็นธรรม #ศาลแรงงาน #ออฟฟิศ #หนังสือเตือน

toggle
ติดต่อเรา
logo

บริการที่ปรึกษากฎหมายและการบัญชีครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำและแก้ปัญหาทางกฎหมายและการบัญชีอย่างมืออาชีพ

ที่อยู่บริษัท

บริษัท ไทยธนา ที่ปรึกษาและกฎหมาย จำกัด

731 อาคาร พี.เอ็ม. ทาวเวอร์ ชั้น 7 ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

ติดต่อเรา
โทรศัพท์: 02-6429950-1 / 063-210-6492
โทรสาร: 02-6429950 ต่อ 25
อีเมล: [email protected]
เวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ 9.00 น. - 18.00 น.

©Copyright 2025 Thaitana Law Firm. 

All Rights Reserved.