[email protected]
ติดต่อเรา
← ย้อนกลับ การเป็น "ผู้จัดการมรดก" เปรียบเสมือนการเดินทางที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด 🗺️ มาดูกันว่าการเดินทางนี้จะสิ้นสุดลงได้อย่างไรบ้าง

อัปเดตเมื่อ: 25/08/2025

การเป็น "ผู้จัดการมรดก" เปรียบเสมือนการเดินทางที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด 🗺️ มาดูกันว่าการเดินทางนี้จะสิ้นสุดลงได้อย่างไรบ้าง

การเป็น "ผู้จัดการมรดก" เปรียบเสมือนการเดินทางที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด 🗺️ มาดูกันว่าการเดินทางนี้จะสิ้นสุดลงได้อย่างไรบ้าง

ตำแหน่งผู้จัดการมรดกที่ศาลแต่งตั้งขึ้นมานั้น มีขอบเขตและระยะเวลาที่ชัดเจน ไม่ใช่หน้าที่ตลอดไป เพื่อให้การจัดการกองมรดกเป็นไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้

 

เรามักได้ยินคำถามว่า เมื่อศาลตั้งใครสักคนเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว หน้าที่นี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ หรือต้องทำหน้าที่นี้ไปตลอดชีวิตหรือไม่? คำตอบคือ ไม่ตลอดไป ครับ สถานะการเป็นผู้จัดการมรดกมีวันสิ้นสุดลงตามกฎหมาย ซึ่งสามารถสรุปสาเหตุหลักๆ ได้ 5 ประการ ดังนี้

       1.การจัดการมรดกเสร็จสิ้น

 

นี่คือสาเหตุที่เป็นไปตามกระบวนการปกติและเป็นเป้าหมายหลักของการตั้งผู้จัดการมรดก เมื่อผู้จัดการมรดกได้รวบรวมทรัพย์สิน ชำระหนี้สินของกองมรดก และแบ่งทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ทายาทจนครบถ้วนแล้ว ภารกิจก็ถือว่าลุล่วง หน้าที่ของผู้จัดการมรดกจึงสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติ

 

ตัวอย่าง ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2529 ศาลได้วินิจฉัยว่า วันที่ผู้จัดการมรดกโอนทรัพย์มรดกชิ้นสุดท้ายให้แก่ทายาท ถือเป็นวันที่การจัดการมรดกสิ้นสุดลง

 

ข้อสำคัญ จุดนี้เป็นเรื่องที่ทายาทต้องรู้ เพราะกฎหมายกำหนดว่า หากทายาทจะฟ้องร้องผู้จัดการมรดกเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากการจัดการมรดก จะต้องฟ้องภายใน 5 ปีนับแต่วันที่การจัดการมรดกสิ้นสุดลง

 

       2.ผู้จัดการมรดกเสียชีวิต

 

ความเป็นผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิและความรับผิดชอบเฉพาะตัวบุคคล ไม่สามารถตกทอดเป็นมรดกไปยังลูกหลานของผู้จัดการมรดกได้ ดังนั้น เมื่อผู้จัดการมรดกเสียชีวิต หน้าที่นี้ย่อมสิ้นสุดลงทันที หากการจัดการมรดกยังไม่เสร็จสิ้น ทายาทของเจ้าของมรดกเดิมจะต้องไปยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอตั้งผู้จัดการมรดกคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน

กรณีมีผู้จัดการมรดกหลายคน หากผู้จัดการมรดกคนหนึ่งเสียชีวิต และทั้งหมดถูกตั้งตามพินัยกรรม คนที่เหลืออยู่สามารถจัดการมรดกต่อไปได้เลย แต่หากทั้งหมดถูกตั้งโดยคำสั่งศาล ผู้จัดการมรดกที่เหลืออยู่จะจัดการต่อไปทันทีไม่ได้ ต้องไปยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตก่อน ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6857/2553

 

       3.ศาลมีคำสั่งถอนผู้จัดการมรดก

หากทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียเห็นว่าผู้จัดการมรดกทำหน้าที่บกพร่อง หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ แต่ต้องทำก่อนที่การแบ่งมรดกจะเสร็จสิ้น

 

เหตุผลที่มักใช้ในการร้องขอให้ถอน

 

ละเลยหน้าที่ เช่น ไม่ยอมทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือตั้งมาหลายปีแล้วแต่ไม่ยอมแบ่งมรดกเสียที จนอาจเกิดความเสียหาย

 

มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ เช่น ปกปิดทายาทบางคนเพื่อไม่ให้ได้รับมรดก, มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับกองมรดก,หรือตั้งใจไม่ทำตามที่พินัยกรรมระบุไว้

 

       4.ผู้จัดการมรดกลาออก (โดยศาลอนุญาต)

ผู้จัดการมรดกสามารถลาออกจากตำแหน่งได้ แต่ไม่ใช่ว่าอยากจะออกก็ออกได้เลย การลาออกจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลและแสดง "เหตุอันสมควร" ให้ศาลพิจารณา การลาออกจะมีผลสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้วเท่านั้น ตามมาตรา 1727 วรรคสอง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และถึงแม้จะลาออกไปแล้ว ความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เคยทำไว้ในระหว่างดำรงตำแหน่งก็ยังคงอยู่

 

       5.ขาดคุณสมบัติตามกฎหมาย

หากในระหว่างเป็นผู้จัดการมรดก เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้บุคคลนั้นกลายเป็นผู้มีคุณสมบัติต้องห้าม ตามมาตรา 1718 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ความเป็นผู้จัดการมรดกจะสิ้นสุดลงทันทีโดยอัตโนมัติ  คุณสมบัติต้องห้ามดังกล่าว ได้แก่ การถูกศาลสั่งให้เป็น

       -คนล้มละลาย

       -คนวิกลจริต หรือ

       -คนเสมือนไร้ความสามารถ

 

 

การเป็นผู้จัดการมรดกก็เปรียบเสมือนการเดินทางที่มีจุดสิ้นสุดเสมอ ไม่ว่าจะจบลงเพราะภารกิจลุล่วงอย่างสวยงาม หรือสิ้นสุดลงด้วยเหตุจำเป็นอื่นๆ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นหลักประกันว่า "อำนาจ" ที่ผู้จัดการมรดกได้รับนั้น มีขอบเขตที่ชัดเจน และทรัพย์สินล้ำค่าของผู้ตายจะถูกส่งมอบถึงมือทายาทอย่างถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด

#กฎหมายมรดก #ผู้จัดการมรดก #มรดก #ทายาท #พินัยกรรม #กฎหมายน่ารู้ #ศาล #ทนายความ #วางแผนมรดก

 

toggle
ติดต่อเรา
logo

บริการที่ปรึกษากฎหมายและการบัญชีครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำและแก้ปัญหาทางกฎหมายและการบัญชีอย่างมืออาชีพ

ที่อยู่บริษัท

บริษัท ไทยธนา ที่ปรึกษาและกฎหมาย จำกัด

731 อาคาร พี.เอ็ม. ทาวเวอร์ ชั้น 7 ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

ติดต่อเรา
โทรศัพท์: 02-6429950-1 / 063-210-6492
โทรสาร: 02-6429950 ต่อ 25
อีเมล: [email protected]
เวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ 9.00 น. - 18.00 น.

©Copyright 2025 Thaitana Law Firm. 

All Rights Reserved.