[email protected]
ติดต่อเรา
← ย้อนกลับ ป้าย "ไม่รับผิดชอบ" ที่ลานจอดรถ...มีผลทางกฎหมายจริงเหรอ?

อัปเดตเมื่อ: 07/07/2025

ป้าย "ไม่รับผิดชอบ" ที่ลานจอดรถ...มีผลทางกฎหมายจริงเหรอ?

       เรื่องเล่าผ่านฎีกา ตอนที่ 1 รถหายในห้างสรรพสินค้า ใครต้องรับผิดชอบ?

       ในยุคที่จำนวนรถยนต์บนท้องถนนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พื้นที่จอดรถกลับมีอยู่อย่างจำกัด ทำให้ที่จอดรถกลายเป็นทำเลทอง โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจที่ค่าบริการจอดรถอาจสูงถึงชั่วโมงละหลายสิบบาทไปจนถึงหลักร้อยบาท หลายคนจึงเลือกใช้บริการที่จอดรถของห้างสรรพสินค้า ซึ่งมักจะให้บริการจอดฟรีตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น เมื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการครบตามยอดที่กำหนด

       แต่ท่านเคยสังเกตเห็นป้ายประกาศที่ติดไว้บริเวณทางเข้าที่จอดรถหรือไม่? ข้อความที่ว่า “ไม่รับผิดชอบกรณีรถสูญหายหรือเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น” ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับรถของเรา ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกันแน่?

       เพื่อไขข้อสงสัยนี้ เราขอยกกรณีศึกษาที่น่าสนใจขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง

       กรณีศึกษา:เมื่อรถยนต์คันโปรดหายไปจากลานจอดรถ

       เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับ คุณดำเกิง ลูกค้าประจำของห้างสรรพสินค้า A ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ วันหนึ่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณดำเกิงและครอบครัวได้นำรถยนต์ BMW ป้ายแดงคันใหม่ไปจอดที่ลานจอดรถของห้างฯ เพื่อเข้าไปซื้อสินค้าตามปกติ

       ณ บริเวณทางเข้าลานจอดรถ คุณดำเกิงสังเกตเห็นว่าระบบรักษาความปลอดภัยมีการเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่เคยมีการแจกบัตรจอดรถเพื่อบันทึกเวลาเข้า-ออก ได้เปลี่ยนเป็นการติดตั้งกล้องวงจรปิดแทน พร้อมกับมีป้ายประกาศขนาดใหญ่ติดไว้ชัดเจนว่า “ห้างสรรพสินค้าไม่รับผิดชอบกรณีรถสูญหายหรือเสียหายทุกกรณี”

       ด้วยความคุ้นเคยและเชื่อมั่นในมาตรฐานของห้างฯ ใหญ่ คุณดำเกิงจึงไม่ได้เอะใจและนำรถเข้าไปจอด แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคุณดำเกิงและครอบครัวกลับมาที่รถ ก็พบว่ารถยนต์ BMW ของเขาได้อันตรธานหายไปเสียแล้ว

       เมื่อเข้าติดต่อเพื่อสอบถามความรับผิดชอบจากผู้บริหารของห้างฯ ก็ได้รับคำปฏิเสธทันที โดยอ้างถึงป้ายประกาศที่ได้แจ้งเตือนไว้แล้ว คุณดำเกิงจึงตัดสินใจนำเรื่องขึ้นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย

       ทางห้างสรรพสินค้า A ได้ต่อสู้คดีโดยให้เหตุผลว่า ทางห้างฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมซึ่งเป็นฝีมือของบุคคลภายนอก และได้แสดงการปฏิเสธความรับผิดชอบผ่านป้ายประกาศอย่างชัดเจนแล้ว

       มุมมองทางกฎหมายและคำพิพากษาศาลฎีกา

       เมื่อพิจารณาจากข้อต่อสู้ของห้างฯ หลายท่านอาจคล้อยตามว่าห้างฯ ไม่น่าจะต้องรับผิดชอบ เพราะได้แจ้งเตือนไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ในทางกฎหมายและแนวทางคำพิพากษาของศาลฎีกาได้ให้มุมมองที่แตกต่างออกไป โดยมีคำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกรณีลักษณะนี้คือ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374/2551 และ 743/2561 ซึ่งสรุปเหตุผลสำคัญไว้ดังนี้

       1.ที่จอดรถคือส่วนหนึ่งของการบริการเพื่อดึงดูดลูกค้า

       ศาลมองว่า การจัดหาที่จอดรถเป็นปัจจัยสำคัญที่จูงใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในห้างฯ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อผลกำไรของห้างฯ จากการจำหน่ายสินค้าและบริการ ดังนั้น การให้บริการที่จอดรถจึงไม่ใช่การให้ใช้พื้นที่โดยไม่มีค่าตอบแทน แต่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการบริการที่ห้างฯ ต้องมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในทรัพย์สินของลูกค้าตามสมควร

       การที่ห้างฯ ยกเลิกการแจกบัตรจอดรถ ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สำคัญ แล้วเปลี่ยนมาใช้เพียงกล้องวงจรปิดซึ่งทำหน้าที่แค่บันทึกภาพ แต่ไม่สามารถป้องกันเหตุการณ์ได้ทันท่วงที ถือเป็นการ "งดเว้น" การปฏิบัติหน้าที่ ที่ควรจะต้องทำ และเข้าข่ายเป็นความประมาทเลินเล่อของห้างฯ แม้ว่าการโจรกรรมจะเป็นการกระทำของบุคคลภายนอก แต่ความประมาทของห้างฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสียหาย จึงต้องร่วมรับผิดในฐานะผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420

       2.ป้ายประกาศ “ไม่ขอรับผิดชอบ” ไม่มีผลยกเว้นความผิด

       สำหรับป้ายประกาศที่ห้างฯ ติดตั้งไว้นั้น ศาลวินิจฉัยว่าเป็นเพียง "ข้อความที่ห้างฯ กำหนดขึ้นฝ่ายเดียว" เพื่อประโยชน์ของตนเองในการปัดภาระความรับผิดชอบ โดยที่ลูกค้าหรือคุณดำเกิงไม่ได้ให้ความยินยอมหรือตกลงในเงื่อนไขดังกล่าวด้วย ข้อความในป้ายประกาศจึงไม่มีผลผูกพันและไม่สามารถยกเว้นความรับผิดจากการกระทำละเมิดของห้างฯ ได้

 

       จากกรณีศึกษานี้ จะเห็นได้ว่าข้อพิพาททางกฎหมายมีรายละเอียดที่ซับซ้อนกว่าที่เห็น การมีที่ปรึกษาหรือทนายความผู้เชี่ยวชาญโดยตรง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจสิทธิ์และข้อกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

       ข้อแนะนำเพิ่มเติมเมื่อต้องจอดรถในห้างสรรพสินค้า

       เพื่อป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ควรปฏิบัติดังนี้

       1.ถ่ายภาพเป็นหลักฐาน เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว ควรถ่ายภาพรถของคุณให้เห็นป้ายทะเบียนและสภาพแวดล้อมของสถานที่จอดรถเก็บไว้

       2.ควรเก็บใบเสร็จจากการซื้อสินค้าหรือใช้บริการในห้างฯ ไว้เสมอ เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าคุณได้เข้ามาเป็นลูกค้าในวันและเวลาที่เกิดเหตุจริง

       3.หากพบว่ารถหาย ให้ตั้งสติและแจ้งความ ณ สถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด พร้อมนำหลักฐานทั้งหมด เช่น ภาพถ่ายและใบเสร็จ มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกไว้ในสำนวนคดี

เรื่องเล่าผ่านฎีกาในตอนแรกนี้ ขอจบลงเพียงเท่านี้ ในตอนต่อไปเราจะนำคดีความที่น่าสนใจเกี่ยวกับประกันภัย มาวิเคราะห์และเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง โปรดรอติดตามครับ

#รู้หรือไม่ #สาระน่ารู้ #เตือนภัย #รถยนต์ #ขับรถ #เรื่องรถ #ช้อปปิ้ง #ห้างสรรพสินค้า #tiktokuni #fyp

#กฎหมาย #กฎหมายน่ารู้ #ทนาย #ทนายความ #คุ้มครองผู้บริโภค #ศาลฎีกา #กฎหมายแพ่ง #ละเมิด #ทนายนอกศาล

#รถหายในห้าง #รถหาย #ที่จอดรถ #ลานจอดรถ #ป้ายไม่รับผิดชอบ #ฎีกา #ค่าเสียหาย #ประมาทเลินเล่อ

 

toggle
ติดต่อเรา
logo

บริการที่ปรึกษากฎหมายและการบัญชีครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำและแก้ปัญหาทางกฎหมายและการบัญชีอย่างมืออาชีพ

ที่อยู่บริษัท

บริษัท ไทยธนา ที่ปรึกษาและกฎหมาย จำกัด

731 อาคาร พี.เอ็ม. ทาวเวอร์ ชั้น 7 ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

ติดต่อเรา
โทรศัพท์: 02-6429950-1 / 063-210-6492
โทรสาร: 02-6429950 ต่อ 25
อีเมล: [email protected]
เวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ 9.00 น. - 18.00 น.

©Copyright 2025 Thaitana Law Firm. 

All Rights Reserved.