
อัปเดตเมื่อ: 26/09/2025
คิดก่อนคลิก! 🛑 10 พฤติกรรมออนไลน์สุดเสี่ยง อาจพาคุณ "เข้าคุก" ไม่รู้ตัว
คิดก่อนคลิก! 🛑 10 พฤติกรรมออนไลน์สุดเสี่ยง อาจพาคุณ "เข้าคุก" ไม่รู้ตัว
คิดก่อนคลิก 10 พฤติกรรมออนไลน์สุดเสี่ยง อาจพาคุณเข้าคุกไม่รู้ตัว
ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การโพสต์ การแชร์ หรือแม้แต่การกดไลก์ก็ทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าความสะดวกสบายนี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบทางกฎหมายที่หนักอึ้ง?
หลายพฤติกรรมที่เราอาจทำไปโดยไม่คิด อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และกฎหมายอื่นๆ ได้ วันนี้เรามาทบทวน 10 พฤติกรรมที่ต้องระวังให้ดี เพราะอาจมีโทษทั้งจำคุกและปรับหนักจนคุณคาดไม่ถึง
1.อัปโหลดภาพลามกอนาจาร
ไม่ว่าจะเป็นภาพของตนเองหรือผู้อื่น การนำภาพลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ต่อสาธารณะ ถือเป็นความผิดร้ายแรง
บทลงโทษ จำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ปล่อยข่าวลือ สร้างความวุ่นวาย (Fake News)
การเป็น "เจ้ากรมข่าวลือ" สร้างหรือเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่อาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนก กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือความสงบสุขของประชาชน ถือเป็นความผิด
บทลงโทษ จำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ตัดต่อภาพผู้อื่นให้เสียหาย
การใช้ทักษะตัดต่อภาพนิ่งหรือวิดีโอเพื่อทำให้บุคคลอื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรืออับอาย แล้วนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ หากเจ้าของภาพฟ้องร้องขึ้นมา เรื่องไม่จบง่ายๆ แน่นอน
บทลงโทษ จำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
4.ขโมยข้อมูลส่วนตัวไปใช้ประโยชน์
การลักลอบบันทึก (Save) หรือขโมยข้อมูลของผู้อื่น ไปใช้เพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือเพื่อกลั่นแกล้ง ถือเป็นการลักทรัพย์และมีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ด้วย
บทลงโทษ อาจถูกดำเนินคดีหลายข้อหา ทั้งลักทรัพย์ ละเมิดลิขสิทธิ์ และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
5.โพสต์ใส่ร้ายป้ายสี ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง
การกุเรื่อง แต่งเติมข้อมูล หรือใส่ความผู้อื่นผ่านช่องทางออนไลน์จนทำให้เขาได้รับความเสียหาย ถือเป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งมีโทษหนักกว่าการหมิ่นประมาททั่วไป
บทลงโทษ จำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
6.แก้ไข-ลบไฟล์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม่ว่าจะด้วยความคึกคะนองหรือตั้งใจ การเข้าไปแก้ไข ดัดแปลง หรือลบไฟล์งานของผู้อื่นในระบบคอมพิวเตอร์จนเกิดความเสียหาย ถือเป็นความผิดทางอาญา
บทลงโทษ จำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
7.แอบใช้ ID/Password เข้าระบบคนอื่น
ความอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นไม่ใช่ข้ออ้าง การแอบนำ ID หรือ Password ของผู้อื่นไปล็อกอินเข้าระบบเพื่อแอบดูข้อมูลส่วนตัว ถือเป็นการบุกรุกและละเมิดสิทธิอย่างชัดเจน
บทลงโทษ มีความผิดตามกฎหมาย อาจเจอทั้งจำคุกและปรับ
8.ส่งอีเมลขยะ (Spam) หรือข้อความลูกโซ่ที่สร้างความรำคาญ
การส่งอีเมลโฆษณาที่ผู้รับไม่ต้องการ หรือส่งข้อความลูกโซ่ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นโดยไม่เปิดช่องให้ปฏิเสธได้ง่ายๆ ถือว่ามีความผิด
บทลงโทษ ปรับสูงสุดถึง 200,000 บาท
9.กด Like/Share ข้อมูลที่ผิดกฎหมายโดยไม่ตรวจสอบ
ในยุคข้อมูลข่าวสาร การกดแชร์ก่อนตรวจสอบถือว่าเสี่ยงมาก! หากคุณแชร์ข้อมูลที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย (เช่น ข่าวปลอม, ข้อมูลหมิ่นประมาท, ภาพลามก) คุณจะถือว่าเป็น "ผู้เผยแพร่" และอาจต้องรับโทษเทียบเท่ากับผู้โพสต์ต้นทาง
บทลงโทษ รับโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำผิดคนแรก ขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่แชร์
- ข้อควรระวังสูงสุด การโพสต์เนื้อหาหมิ่นสถาบันฯ
นี่คือประเด็นที่ร้ายแรงที่สุด การโพสต์ การแชร์ หรือแม้แต่การแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นความผิดร้ายแรงที่กระทบต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร
บทลงโทษ: มีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำคุกสูงสุดถึง 15 ปี
หยุด "อุปาทานหมู่" คิดให้ดีก่อนโพสต์
เมื่อเห็นบทลงโทษที่ชัดเจนและรุนแรงเช่นนี้แล้ว เหล่านักโพสต์ นักแชร์ และนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ทุกคน ควรไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนจะเผยแพร่อะไรออกไป อิสระบนโลกออนไลน์มาพร้อมกับขอบเขตความรับผิดชอบเสมอ
อิสระบนโลกออนไลน์มาพร้อมกับขอบเขตความรับผิดชอบเสมอ คิดให้ดี ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนจะโพสต์, แชร์, หรือคอมเมนต์อะไรลงไปนะครับ
#กฎหมายน่ารู้ #พรบคอมพิวเตอร์ #เตือนภัย #ไซเบอร์ #หมิ่นประมาท #FakeNews #PDPA #ดิจิทัล #รู้ไว้ไม่เสี่ยง #โซเชียลมีเดีย