[email protected]
← ย้อนกลับ จะลาออกต้องรู้! 🛑 "ออกกะทันหัน" ไม่บอกล่วงหน้า... ระวังโดนฟ้อง "ค่าเสียหาย" จนกระเป๋าฉีก!

อัปเดตเมื่อ: 18/11/2025

จะลาออกต้องรู้! 🛑 "ออกกะทันหัน" ไม่บอกล่วงหน้า... ระวังโดนฟ้อง "ค่าเสียหาย" จนกระเป๋าฉีก!

จะลาออกต้องรู้! 🛑 "ออกกะทันหัน" ไม่บอกล่วงหน้า... ระวังโดนฟ้อง "ค่าเสียหาย" จนกระเป๋าฉีก!

 

เมื่อลูกจ้างลาออกกะทันหัน ไม่ยอมบอกกล่าวล่วงหน้า 30 วัน หรือ หายไปดื้อๆ ทิ้งงานกองโตไว้

 

สิ่งที่นายจ้างมักสงสัยคือ "ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ไหม?" และ "จะเรียกได้เท่าไหร่?" ซึ่งหากไปดูคำตอบจาก

คำพิพากษาศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่วางแนวบรรทัดฐานไว้ 2 มุม ดังนี้

 

มุมมองที่ 1 เมื่อความเสียหาย "จับต้องได้" และ "กระทบธุรกิจโดยตรง" (ฎีกาที่ 1630/2557)

 

ในมุมนี้ นายจ้างฟ้องเพราะลูกจ้างลาออกกะทันหัน ทำให้ขาดผู้เชี่ยวชาญ นายจ้างฟ้องเรียกค่าจ้างคนนอกมาอบรมแทน , ค่าขาดรายได้จากการขายและการบริการ รวมกว่า 4 ล้านบาท

 

ศาลตัดสินว่า ได้บางส่วน ศาลมองว่าการขาดลูกจ้างกะทันหัน ทำให้นายจ้างต้องเสียเงินจ้างคนมาอบรมและทำงานแทนจริง ( ค่าเสียหายส่วนนี้ฟังขึ้น )

 

แต่ไม่ได้ทั้งหมด เช่น ค่าเสียหายจากการ "ขาดรายได้ทางธุรกิจ" (เช่น ยอดขายตก) ศาลมองว่าเป็นความเสี่ยงในการบริหารจัดการของนายจ้างเอง ไม่ใช่ผลโดยตรงจากการลาออกเพียงอย่างเดียว จากที่ขอหลักล้าน

 

ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดให้จ่ายจริงเพียงหลักหมื่น คือ 50,000 และ 30,000 บาท ตามความเสียหายที่แท้จริง

 

มุมมองที่ 2: เรื่อง "เบี้ยปรับ" กับ "หน้าที่ปกติของนายจ้าง" (ศาลอุทธรณ์ฯ 15/2563 และ ฎีกา 4862-4870/60)

มุมนี้คือกรณีที่มี "สัญญา" ระบุไว้ชัดเจนว่าต้องบอกกล่าวล่วงหน้า 30 วัน หรือต้องส่งมอบงาน หากฝ่าฝืนต้องจ่ายค่าปรับ

 

นายจ้างฟ้องเรียกเบี้ยปรับ ( เช่น 2 เท่าของเงินเดือน ) , ค่าเสียเวลาประกาศหาคนใหม่ , ค่าจัดอบรมพนักงานใหม่

 

ศาลตัดสินว่า เบี้ยปรับกำหนดได้ แต่ศาลก็ลดได้ เพราะการระบุค่าปรับไว้ในสัญญาถือเป็น "เบี้ยปรับ" ตามกฎหมาย หากลูกจ้างผิดสัญญาจริง นายจ้างมีสิทธิเรียกได้ แต่ถ้าสูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดลงให้เหลือ "พอสมควร" โดยดูจากความจงใจและความเสียหายจริง

 

ส่วนค่าหาคนใหม่ หรือต้องฝึกคนใหม่ ศาลมองว่าการประกาศรับสมัครงานและการอบรมพนักงานใหม่ เป็น "หน้าที่ปกติ" ของการทำธุรกิจที่ต้องรู้อยู่แล้วว่าคนมีการเข้า-ออก ไม่ถือเป็นค่าเสียหายที่ลูกจ้างต้องรับผิดชอบ ( เว้นแต่เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางสูงมากและพิสูจน์ความเสียหายได้ชัดเจน )

 

สรุปข้อคิดจากคำพิพากษาทั้ง 2 กรณี กรณีใดบ้างที่นายจ้าง "มีโอกาส" เรียกค่าเสียหายได้?

ความเสียหายต้อง "พิเศษ" ไม่ใช่ "ทั่วไป"

 

ถ้าฟ้องค่าประกาศหางาน ค่าเสียเวลาสัมภาษณ์งานใหม่ = นายจ้างมักจะแพ้ เพราะถือเป็นต้นทุนปกติ

 

แต่ถ้าฟ้องเรียกค่าจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาทำงานแทนชั่วคราว หรือโปรเจกต์เสียหายเพราะขาดคนทำทันที = มีโอกาสชนะ

 

เบี้ยปรับต้อง "สมเหตุสมผล"

เขียนสัญญาปรับ 10 เท่าของเงินเดือน = ศาลมักจะลดลงมหาศาล

 

การลดเบี้ยปรับ ศาลจะดูว่าลูกจ้าง "จงใจ" แกล้งนายจ้างให้เสียหาย หรือมีความจำเป็นต้องไป (เช่น ได้งานราชการด่วน) และได้พยายามเคลียร์งานหรือยัง

 

การส่งมอบงานคือกุญแจสำคัญ

 

หากลูกจ้างลาออกผิดระเบียบ แต่เคลียร์งานจบ ส่งมอบไฟล์งานครบ ไม่เกิดความเสียหายต่องาน = นายจ้างแทบจะเรียกค่าเสียหายไม่ได้เลย

 

หากทิ้งงานกลางคัน จนสินค้าเสียหาย หรือส่งมอบลูกค้าไม่ทัน = นายจ้างมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจริงได้

 

การฟ้องร้องเป็นเรื่องปลายเหตุ ลูกจ้างควรมีความรับผิดชอบในการส่งมอบงาน เพราะแม้กฎหมายจะคุ้มครองแรงงาน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะคุ้มครองคนที่ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่ก่อขึ้นจริงเสมอไปครับ

#กฎหมายแรงงาน #สิทธิลูกจ้าง #ลาออก #แจ้งล่วงหน้า #ค่าเสียหาย #มนุษย์เงินเดือน #เตือนภัย #รับผิดชอบ #Professional

toggle
ติดต่อเรา
logo

บริการที่ปรึกษากฎหมายและการบัญชีครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำและแก้ปัญหาทางกฎหมายและการบัญชีอย่างมืออาชีพ

ที่อยู่บริษัท

บริษัท ไทยธนา ที่ปรึกษาและกฎหมาย จำกัด

731 อาคาร พี.เอ็ม. ทาวเวอร์ ชั้น 7 ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

ติดต่อเรา
โทรศัพท์: 02-6429950-1 / 063-210-6492
โทรสาร: 02-6429950 ต่อ 25
อีเมล: [email protected]
เวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ 9.00 น. - 18.00 น.

©Copyright 2025 Thaitana Law Firm. 

All Rights Reserved.